งานวิจัยพบว่า 71% ของก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากทั่วโลกมีที่มาจาก 100 บริษัทเท่านั้น
ผู้เขียน: เทส ไรลี่ย์ (Tess Riley)
เผยแพร่ในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ The Guardian
10 กรกฎาคม 2560
ผู้ผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลไม่กี่รายรวมถึงผู้ร่วมลงทุนอาจเป็นกุญเเจสำคัญในการเเก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
บรรยายภาพ: แท่นขุดเจาะน้ำมันเเละก๊าซธรรมชาติ รายงานฉบับใหม่ระบุว่ากว่า 50% ของก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกนับตั้งเเต่ปี 2531 มีต้นตอจาก 25 บริษัทเท่านั้น ภาพโดย: แดซเเมน (Dazman)/ เก็ตตี้ อิมเมจ/ ไอสต๊อกโฟโต้
รายงานฉบับใหม่ระบุว่ามีเพียง 100 บริษัทเท่านั้นที่เป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่า 70% ของปริมาณทั้งหมดทั่วโลก
รายงาน Carbon Majors Report “ชี้ให้เห็นว่าผู้ผลิตเชื้อเพลงฟอสซิลไม่กี่รายอาจเป็นผู้กุมกุญเเจสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบในการการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์” เปโดร ฟาเรีย (Pedro Faria) ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ CDP องค์กรไม่เเสวงหากำไรด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งตีพิมพ์รายงานฉบับนี้ภายใต้ความร่วมมือกับสถาบันความรับผิดชอบด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Accountability Institute) กล่าว
ปกติเเล้ว ข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณมากจะถูกจัดเก็บเป็นรายประเทศ เเต่รายงานชิ้นนี้มุ่งความสนใจไปที่ผู้ผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลโดยรวบรวมจากฐานข้อมูลตัวเลขการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เปิดเผยต่อสาธารณะ รายงานฉบับนี้เป็นฉบับเเรกของรายงานอีกหลายชิ้นเพื่อเน้นให้เห็นว่าบริษัทต่างๆเเละนักลงทุนจะมีบทบาทในการร่วมเเก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างไรบ้าง
รายงานชิ้นนี้พบว่ากว่าครึ่งของปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากภาคอุตสาหกรรมนับตั้งเเต่ปี 2531 ซึ่งเป็นปีที่มีการก่อตั้งคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change – IPCC) นั้นมีที่มาจากรัฐวิสาหกิจเเละบริษัทเอกชนเพียง 25 เเห่งเท่านั้น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผู้ผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ผ่านมามีปริมาณมากพอที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีนัยยะสำคัญ
บริษัทเอ็กซอนโมบิล เชลล์ บีพีเเละเชฟรอนติดอันดับต้นๆ ของผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในหมู่บริษัทที่ถือหุ้นโดยนักลงทุนตั้งเเต่ปี พ.ศ. 2531 รายงานฉบับนี้ยังชี้ให้เห็นว่าหากเชื้อเพลงฟอสซิลยังถูกขุดในอัตราเดียวกับที่ขุดกันระหว่างปี 2531 จนถึง 2560 ไปอีก 28 ปี อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะสูงขึ้น 4 องศาเมื่อสิ้นศตวรรษที่ 21 เเละอาจนำพามาซึ่งภัยพิบัติต่างๆ เช่น การสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก เเละความเสี่ยงที่จะเกิดการขาดเเคลนอาหารทั่วโลก
ฟาเรียกล่าวว่าขณะที่บริษัททั้งหลายมีบทบาทสำคัญในเเก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เเต่อุปสรรคสำคัญคือ “การชักเย่อ” กันระหว่างการทำกำไรในระยะสั้นเเละความจำเป็นเร่งด่วนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
.
รายงาน Carbon Tracker เมื่อปี 2558 พบว่าบริษัทผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลมีความเสี่ยงที่จะสูญเม็ดเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ (61.43 ล้านล้านบาท)ในช่วงทศวรรษข้างหน้าหากยังเดินหน้าลงทุนในโครงการถ่านหิน น้ำมันเเละก๊าซธรรมชาติที่อาจไร้ค่าเนื่องจากต้องเผชิญกับปฏิบัติการเเก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของนานาชาติรวมถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะส่งผลลบต่อนักลงทุน
CDP กล่าวว่าเป้าหมายของโครงการ Carbon Majors มี 2 ประการคือเพื่อให้ผู้ผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลมีความโปร่งใสมากขึ้นเเละเพื่อช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงความเกี่ยวข้องระหว่างการถือหุ้นในกิจการเชื้อเพลิงฟอสซิลกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
รายงานฉบับนี้ยังกล่าวอีกว่าการลงทุนของภาครัฐมีส่วนทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคอุตสาหกรรมเป็นสัดส่วนหนึ่งในห้าของปริมาณทั้งหมด “ด้วยเหตุนี้นักลงทุนจึงต้องรับผิดชอบด้วยการมีส่วนร่วมในโครงการ Carbon Majors และเราต้องกระตุ้นให้พวกเขาเปิดเผยความเสี่ยงต่อสภาพภูมิอากาศ” ฟาเรียกล่าว
ไมเคิล บรุน ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรด้านสิ่งเเวดล้อมในสหรัฐอเมริกากล่าวว่านักลงทุนควรถอนตัวจากการลงทุนในเชื้อเพลงฟอสซิล “ไม่เพียงเเต่ความเสี่ยงเชิงจริยธรรม ยังมีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจด้วย โลกเรากำลังเคลื่อนห่างออกจากเชื้อเพลงฟอสซิลไปสู่พลังงานสะอาด ซ้ำยังเร่งเดินหน้าไปทิศทางนั้น นักลงทุนที่ยังถือหุ้นในบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลจะพบยิ่งพบว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงสูงขึ้นๆเมื่อเวลาผ่านไป”
บรุนกล่าวเพิ่มเติมว่า มี “บริษัทกลุ่มหนึ่งซึ่งเหมือนคลื่นซึ่งกำลังมีขนาดใหญ่ขึ้นๆที่ดำเนินการตรงกันข้ามกับบริษัททั้งหลายที่กล่าวถึงในรายงานฉบับนี้” ปัจจุบัน เกือบ 100 บริษัทซึ่งรวมถึงแอปเปิ้ล เฟสบุ๊ค กูเกิ้ลเเละอิเกียได้ปวารณาตัวเข้าร่วมในโครงการ RE100 ซึ่งว่าด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในการดำเนินธุรกิจเเล้ว ไม่นานนี้ วอลโว่ก็ได้ประกาศว่านับตั้งเเต่ปี 2562 บริษัทจะผลิตเเต่รถยนต์ไฟฟ้าหรือเเบบไฮบริด
บริษัทผลิตน้ำมันเเละก๊าซเองก็เริ่มหันมาสู่การลงทุนสีเขียว บริษัทเชลล์ได้ตั้งหน่วยที่รับผิดชอบด้านพลังงานหมุนเวียนขึ้นมาโดยเฉพาะในปี 2558 ด้วยเงินลงทุน 1,700 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (52,300 ล้านบาท) โฆษกบริษัทเชฟรอนก็กล่าวว่าบริษัท “ให้คำมั่นสัญญาว่าจะบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจก” เเละกำลังลงทุนในโครงการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก 2 โครงการเพื่อจับเเละจัดเก็บคาร์บอน ส่วนโฆษกของบีพีเล่าว่าบริษัท “มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเเก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเเละกำลังลงทุนในพลังงานหมุนเวียนเเละนวัตกรรมคาร์บอนต่ำ ไม่เพียงเท่านั้น เอ็กซอนโมบิลซึ่งเผชิญกับกระเเสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงเรื่องสิ่งแวดล้อมก็ทำการศึกษาเกี่ยวกับการจับเเละจัดเก็บคาร์บอนอยู่
เเต่สำหรับหลายคนเเล้วเงินที่ใช้ไปเเละความคืบหน้าของการเปลี่ยนเเแปลงยังไม่มากพอ งานวิจัยฉบับหนึ่งที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2561 ของพอล สตีเฟ่นส์ นักวิชาการที่ชาเเธมเฮ้าส์ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมองระบุว่าบริษัทน้ำมันข้ามชาติไม่เหมาะกับสถานการณ์อีกต่อไปเเล้ว เเละยังเตือนบริษัทข้ามชาติเหล่านี้ว่าพวกเขาจะเผชิญกับความพ่ายเเพ้อันโหดร้ายภายใน 10 ปีข้างหน้าหากไม่เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจอย่างสิ้นเชิง
ชาร์ลี โครนิค (Charlie Kronick) ที่ปรึกษาโครงการอาวุโสของกรีนพีซในสหราชอาณาจักรกล่าวว่า ปัจจุบันนี้ นักลงทุนมีทางเลือก “อนาคตของอุตสาหกรรมน้ำมันได้ถูกลิขิตไว้เเล้ว ตัวเลือกคือ จะจัดการความตกต่ำด้วยการนำผลตอบเเทนต่อเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นไปลงทุนใหม่ในอุตสาหกรรมเเห่งอนาคต หรือจะยังยื้อไว้ โดยภาวนาว่าตัวเองจะไม่ใช่ผู้เเพ้เมื่อเพลงของเกมเก้าอี้ดนตรีนี้สิ้นสุดลง”
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะสมตั้งเเต่พ.ศ.2531-2558 ของผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก 100 ราย
ลำดับ |
บริษัท |
เปอร์เซ็นต์การปล่อยก๊าซเรือน กระจกในภาคอุตสาหกรรม ทั่วโลก |
1 |
จีน (ถ่านหิน) |
14.32% |
2 |
บริษัทน้ำมันเเห่งชาติซาอุดิอาระเบีย (อะแรมโค – Aramco) |
4.50% |
3 |
แก๊สพรอม (Gazprom OAO) |
3.91% |
4 |
บริษัทน้ำมันเเห่งชาติอิหร่าน (National Iranian Oil Co) |
2.28% |
5 |
เอ็กซอนโมบิล คอร์ปอเรชั่น (ExxonMobil Corp) |
1.98% |
6 |
โคล อินเดีย (Coal India) |
1.87% |
7 |
บริษัทน้ำมันแห่งชาติเม็กซิโก (Petroleos Mexicanos -Pemex) |
1.87% |
8 |
รัสเซีย (ถ่านหิน) |
1.86% |
9 |
รอยัลดัตช์เชลล์ (Royal Dutch Shell PLC) |
1.67% |
10 |
บริษัทปิโตรเลียมเเห่งชาติจีน (China National Petroleum Corp – CNPC) |
1.56% |
11 |
บีพี (BP PLC) |
1.53% |
12 |
เชฟรอน คอร์ปอเรชั่น (Chevron Corp) |
1.31% |
13 |
บริษัทน้ำมันเเห่งชาติเวเนซูเอล่า (Petroleos de Venezuela SA – PDVSA) |
1.23% |
14 |
บริษัทน้ำมันแห่งชาติอะบูดาบี (Abu Dhabi National Oil Co) |
1.20% |
15 |
ถ่านหินโปแลนด์ (Poland Coal) |
1.16% |
16 |
พีบอดี้ เอเนอร์จี คอร์ปอเรชั่น (Peabody Energy Corp) |
1.15% |
17 |
โซนาทราช (Sonatrach SPA) |
1.00% |
18 |
คูเวตปิโตรเลียมคอร์โปเรชั่น (Kuwait Petroleum Corp) |
1.00% |
19 |
โททอล (Total SA) |
0.95% |
20 |
บีเอชพี บิลลิตัน (BHP Billiton Ltd) |
0.91% |
21 |
โคโนโคฟิลิปส์ (ConocoPhillips) |
0.91% |
22 |
บริษัทปิโตรเลียมเเห่งชาติบราซิล (Petroleo Brasileiro SA – Petrobras) |
0.77% |
23 |
ลุคออยล์ (Lukoil OAO) |
0.75% |
24 |
ริโอ ตินโต (Rio Tinto) |
0.75% |
25 |
บริษัทปิโตรเลียมเเห่งชาติไนจีเรีย (Nigerian National Petroleum Corp) |
0.72% |
26 |
ปิโตรนาส (Petronas) |
0.69% |
27 |
รอสเน็ฟต์ (Rosneft OAO) |
0.65% |
28 |
อาร์ชโคล (Arch Coal Inc) |
0.63% |
29 |
บริษัทน้ำมันเเห่งชาติอิรัก (Iraq National Oil Co) |
0.60% |
30 |
อีนี่ (Eni SPA) |
0.59% |
31 |
แองโกลอเมริกัน (Anglo American) |
0.59% |
32 |
ซูร์กุตเนฟตีก๊าซ (Surgutneftegas OAO) |
0.57% |
33 |
อัลฟ่าเนเจอรัลรีซอร์ส (Alpha Natural Resources Inc) |
0.54% |
34 |
บริษัทกาตาร์ปิโตรเลียม (Qatar Petroleum Corp) |
0.54% |
35 |
บริษัทน้ำมันเเห่งชาติอินโดนีเซีย (PT Pertamina) |
0.54% |
36 |
คาซัคสถานโคล (Kazakhstan Coal) |
0.53% |
37 |
สตาออยล์ (Statoil ASA) |
0.52% |
38 |
บริษัทน้ำมันเเห่งชาติลิเบีย (National Oil Corporation of Libya) |
0.50% |
39 |
คอนโซลเอเนอร์จี (Consol Energy Inc) |
0.50% |
40 |
ถ่านหินยูเครน (Ukraine Coal) |
0.49% |
41 |
เรนิช เวสต์ฟาเลียน (RWE AG) |
0.47% |
42 |
ออยล์แอนด์เนเจอรัลก๊าซคอร์ปอเรชั่น (Oil & Natural Gas Corp Ltd) |
0.40% |
43 |
เกล็นคอร์ (Glencore PLC) |
0.38% |
44 |
เติร์กเมนก๊าซ (TurkmenGaz) |
0.36% |
45 |
ซาโซล (Sasol Ltd) |
0.35% |
46 |
เรปซอล (Repsol SA) |
0.33% |
47 |
อนาดาร์โก ปิโตรเลียทคอร์ปอเรชั่น (Anadarko Petroleum Corp) |
0.33% |
48 |
บริษัทปิโตรเลียมแห่งชาติอียิปต์ (Egyptian General Petroleum Corp) |
0.31% |
49 |
ปิโตรเลียมดีเวล็อปเม็นต์โอมาน (Petroleum Development Oman LLC) |
0.31% |
50 |
ถ่านหินสาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic Coal) |
0.30% |
51 |
ไชน่าปิโตรเคมิคอลคอร์ปอเรชั่น (China Petrochemical Corp – Sinopec) |
0.29% |
52 |
ไชน่าเนชั่นเเนลออฟชอร์คอร์ปอเรชั่น (China National Offshore Oil Corp Ltd – CNOOC) |
0.28% |
53 |
อีโคเพ็ททรอล (Ecopetrol SA) |
0.27% |
54 |
ซินกาเรนี่ คอลลีรี่ส์ (Singareni Collieries Company) |
0.27% |
55 |
อ็อกซิเด็นทอลปิโตรเลียมคอร์ปอเรชั่น (Occidental Petroleum Corp) |
0.26% |
56 |
โซนานกอล (Sonangol EP) |
0.26% |
57 |
แท็ตเน็ฟต์ (Tatneft OAO) |
0.23% |
58 |
ถ่านหินเกาหลีเหนือ (North Korea Coal) |
0.23% |
59 |
บูมิรีซอร์สเซส (Bumi Resources) |
0.23% |
60 |
ซันคอร์ เอเนอร์จี (Suncor Energy Inc) |
0.22% |
61 |
เปโตโร่ (Petoro AS) |
0.21% |
62 |
เดว่อน เอเนอร์จี (Devon Energy Corp) |
0.20% |
63 |
เนเจอรัลรีซอร์สพาร์ทเนอร์ส (Natural Resource Partners LP) |
0.19% |
64 |
มาราธอนออยล์คอร์ปอเรชั่น (Marathon Oil Corp) |
0.19% |
65 |
วิสตร้า เอเนอร์จี (Vistra Energy) |
0.19% |
66 |
เอ็นคาน่า คอร์ปอเรชั่น (Encana Corp) |
0.18% |
67 |
แคเนเดียน เนเจอรัลรีซอร์สเซส (Canadian Natural Resources Ltd) |
0.17% |
68 |
เอสส์ คอร์ปอเรชั่น (Hess Corp) |
0.16% |
69 |
เอ็กซ์ซาโร่รีซอร์สเซส (Exxaro Resources Ltd) |
0.16% |
70 |
วายพีเอฟ (YPF SA) |
0.15% |
71 |
อะปาเช่ คอร์ปอเรชั่น (Apache Corp) |
0.15% |
72 |
เมอร์เรย์โคล (Murray Coal) |
0.15% |
73 |
อะลิอันซ์รีซอร์สพาร์ทเนอร์ส (Alliance Resource Partners LP) |
0.15% |
74 |
ซีเรียนปิโตรเลียม (Syrian Petroleum Co) |
0.15% |
75 |
โนวาเทค (Novatek OAO) |
0.14% |
76 |
นัคโก้ อินดัสตรี้ส์ (NACCO Industries Inc) |
0.13% |
77 |
คาซมูเนย์ก๊าซ (KazMunayGas) |
0.13% |
78 |
อะดาโร่เอ็นเนอร์จี (Adaro Energy PT) |
0.13% |
79 |
บริษัทน้ำมันเเห่งชาติเอควาดอร์ (Petroleos del Ecuador) |
0.12% |
80 |
อินเป็กซ์คอร์ปอเรชั่น (Inpex Corp) |
0.12% |
81 |
คีวิทไมนิ่งกรุ๊ป (Kiewit Mining Group) |
0.12% |
82 |
เอพี มอลเลอร์ (AP Moller) |
0.11% |
83 |
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) |
0.11% |
84 |
อีโอจี รีซอร์สเซส (EOG Resources Inc) |
0.11% |
85 |
ฮัสกี้เอ็นเนอร์จี (Husky Energy Inc) |
0.11% |
86 |
คิเดโก้ จายา อากุง (Kideco Jaya Agung PT) |
0.10% |
87 |
บริษัทน้ำมันเเห่งชาติบาห์เรน (Bahrain Petroleum Co -BAPCO) |
0.10% |
88 |
เวสต์มอร์เเลนด์โคล (Westmoreland Coal Co) |
0.10% |
89 |
คลาวด์พีคเอ็นเนอร์จี (Cloud Peak Energy Inc) |
0.10% |
90 |
เชสาพีคเอ็นเนอร์จีคอร์ปอเรชั่น (Chesapeake Energy Corp) |
0.10% |
91 |
ดรัมมอนด์ (Drummond Co) |
0.09% |
92 |
เทครีซอร์สเซส (Teck Resources Ltd) |
0.09% |
93 |
เติร์คเมนเนบิท (Turkmennebit) |
0.07% |
94 |
โอเอ็มวี (MV AG) |
0.06% |
95 |
โนเบิลเอ็นเนอร์จี (Noble Energy Inc) |
0.06% |
96 |
เมอร์ฟี่ย์ออยล์คอร์ปอเรชั่น (Murphy Oil Corp) |
0.06% |
97 |
เบเรา โคล เอ็นเนอร์จี (Berau Coal Energy Tbk PT) |
0.06% |
98 |
บูกิตอะซัม (Bukit Asam Tbk ) |
0.05% |
99 |
อินดิก้าเอ็นเนอร์จี (Indika Energy Tbk PT) |
0.04% |
100 |
เซาธ์เวสเทิร์มเอ็นเนอร์จี (Southwestern Energy Co) |
0.04% |